วันนี้ (31 มี.ค.2566) พ.อ.เทพพิทักษ์ นิมิตร รอง ผบ.กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.ร.2 รอ.) กล

เมื่อวันที่ 7 ก.ค.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) พืชกระท่อม ที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ โดยนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ชี้แจงหลักการและเหตุผ

วันนี้ (31 มี.ค.2566) พ.อ.เทพพิทักษ์ นิมิตร รอง ผบ.กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.ร.2 รอ.) กล่าวถึงถึงความคืบหน้าการดำเนินการกำลังพลกรณีทำร้ายร่างกายภรรยาว่า ปัจจุบันหน่วยได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนและลงโทษทางวินัยกำลังพลคนดังกล่าวเฟส นิ เค อิ ด้วยการจำขัง 30 วัน ส่วนโทษอื่นๆ อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการ สำหรับการทำร้ายร่างกาย แม้จะเป็นเรื่องส่วนตัวของคู่กรณี แต่หน่วยได้ประสานกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการดำเนินคดีให้เป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย พร้อมประสานคู่กรณีเยียวยาตามความเหมาะสม ให้เกิดความยุติธรรมสูงสุด ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 1 ขอแสดงความเสียใจ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่กำลังพลได้แก้ปัญหาโดยการใช้ความรุนแรงต่อบุคคลในครอบครัว พร้อมทั้งจะติดตามความคืบหน้าการดำเนินการทางคดีให้เป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย โดยกำชับให้หน่วยงานต้นสังกัดอำนวยความสะดวก เพื่อคลี่คลายปัญหาที่เกิดขึ้นให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ เป็นเรื่องที่มีความอ่อนไหว การดำเนินการใดๆ ทุกฝ่ายต้องตระหนักถึงผลกระทบ ทางด้านจิตใจ และสภาวะทางสังคมอย่างรอบด้าน ด้าน พ.อ.พิเชียรรัฐ ภารัญนิตย์ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ กล่าวว่า ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ได้รับผิดชอบต่อปัญหาที่เกิดขึ้น โดยหน่วยจะเป็นตัวกลางในการพิจารณาการกระทำความผิดว่าอยู่ในข่ายประมวลกฎหมายทหารหรือไม่ ส่วนผู้บังคับบัญชา 2 ระดับต้องถูกลงโทษด้วย ในฐานะไม่กำกับดูแล ทั้งนี้ การลงโทษกำลังพลผู้ก่อเหตุด้วยการจำขัง 30 วัน ที่เรือนจำ มทบ.14 ถือเป็นโทษสูงสุดในเรื่องการทำร้ายร่างกาย และใช้บังคับกับกำลังพลทุกระดับชั้นไม่ว่าจะเป็นทหารประทวน หรือสัญญาบัตร พ.อ.พิเชียรรัฐ ฝากไปถึงกำลังพลทุกคนว่า การดำเนินการใดๆ กับคนในครอบ ครัว โดยการใช้ความรุนแรง มีความผิดทางทหาร และกฎหมายอาญา หากมีเหตุการณ์เกิดขึ้น ควรแจ้งหน่วยต้นสังกัด เพื่อให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย แต่เมื่อเรื่องถูกเผยแพร่ผ่านโซเชียลมีเดีย ย่อมส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของหน่วย

แนวโน้มภาพรวมน้ำท่วมในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ หากคาดการณ์สถานการณ์ว่าจุดไหนจะคลี่คลาย จุดไหนจะวิกฤต ต้องดูที่แม่น้ำ 4 สายหลัก และที่ต้องจับตาในเวลานี้คือ แม่น้ำสายบุรี และแม่น้ำปัตตานี ที่มีถนนเส้น