วันนี้ (30 ก.ค.2564) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า

ไทยกังวลว่า การผ่านมติดังกล่าวท่ามกลางความตึงเครียด อาจกระทบต่อการแก้ไขความขัดแย้งผ่านวิถีทางการทูต การลงคะแนนเสียงในร่างมติฉบับนี้ได้รับเสียงสนับสนุนท่วมท้นนับตั้งแต่สงครามเปิดฉากขึ้นเมื่อเดือน ก.พ.
วันนี้ (25 พ.ค.2564) นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า จากการถอด รหัสพันธุกรรมสอบเชื้อกลายพันธุ์ COVID-19 สายพันธุ์อินเดียในแคมป์ก่อสร้างเขตหลักสี่ ซึ่งเดิมสัปดาห์ก่อนมีตัวเลข
ล่าสุดปรับตัวขึ้นกว่า 20.40% จากต้นปีที่ 2,483 ดอลลาร์ ถือว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All-Time High) ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศปรับตัวขึ้นกว่า 25.26% จากต้นปี โดยราคาทองแท่ง 96.5% ได้ขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ 42,150 บาท ทั้งนี้ราคาทองคำปรับตัวทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบนี้ จากธนาคารกลางสหรัฐมีสัญญาณชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ย รวมทั้งนักลงทุนอาจมีความกังวลเกี่ยวกับ ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทั้งตลาดแรงงานที่เริ่มอ่อนแอลง และมีการปรับลดการจ้างงาน NFP เดือนเม.ย.และเดือนพ.ค.ที่ประกาศก่อนหน้านี้ลดลงด้วยกว่า 5 หมื่นตำแหน่ง เงินเฟ้อทั้ง Core PCE เริ่มชะลอตัวลง โดยเพิ่มขึ้น 2.6% หลังจากทรงตัวที่ 2.8% ติดต่อกัน 4 เดือน ล่าสุดเงินเฟ้อ CPI ชะลอตัวลงและต่ำกว่าคาด ดังนั้นการชะลอตัวลงของเงินเฟ้อ อาจทำให้เฟดพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น ขณะที่สัญญาณจากเจ้าหน้าที่เฟดต่างออกมาสนับสนุน การปรับลดดอกเบี้ยให้เร็วขึ้น ทำให้ตลาดคาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยปีนี้ 3 ครั้ง จากเดิม 2 ครั้ง สำหรับการลงทุนระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว “ฮั่วเซ่งเฮง” มองว่า ระยะสั้นคาดว่าราคาทองคำมีโอกาสปรับฐาน หลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นพุ่งแรงสู่ All-Time High ซึ่งอาจมีแรงเทขายทำกำไรนั่นเป็นเรื่องปกติ ทั้งนี้การลงทุนในระยะสั้นนั้นควรให้ความสำคัญกับเรื่องของวินัยในการลงทุน การเลือกตราสารที่เหมาะสม นอกจากนี้ การสะสมเข้าซื้อทองคำแท่งยังคงแนะนำเช่นกัน สำหรับการลงทุนที่มีความมั่นคงและปลอดภัยกว่า ซึ่งสามารถทยอยเข้าซื้อสะสมทองคำแท่งในช่วงที่ราคาทองคำปรับฐานหรือปรับตัวลง ส่วนการลงทุนระยะกลางและระยะยาวนั้น แนะนำให้ถือทองหรือใช้วิธีการทยอยซื้อ เพราะด้วยดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มเป็นขาลง รวมทั้งโอกาสที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยยังเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำในอนาคต หลายปีที่ผ่านมา ดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นทองคำก็ยังให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ ทั้งนี้ดอกเบี้ยสหรัฐเริ่มกลับมาทิศทางขาลง ซึ่งอาจทำให้หนุนราคาทองคำเป็นขาขึ้นได้อีก จึงค่อนข้างสบายใจได้ในการลงทุนระยะกลางและระยะยาว สำหรับสัปดาห์นี้คาดว่าราคาทองคำอาจปรับฐาน แต่คาดว่าราคาทองคำยังคงยืนเหนือระดับ 2,360-2,370 ดอลลาร์ แนะนำเข้าซื้อบริเวณแนวรับ 2,370 ดอลลาร์ และแนวรับ 2,360 ดอลลาร์ เป็นแนวรับที่สามารถเราคาบอลสูง 2.5ข้าซื้อได้ ขณะที่มีแนวต้าน 2,430 ดอลลาร์ และแนวต้าน 2,460 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 41,000 บาท และ 40,800 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 41,700 บาท และ 41,900 บาท สำหรับราคาทองวันนี้ ไม่เปลี่ยนแปลง ส่งผลให้ราคาทองคำแท่งขายออกบาทละ 41,400 บาท และราคาทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 41,300 บาท ราคาทองรูปพรรณขายออกบาทละ 41,900 บาท และราคาทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 40,553 บาท ราคาทองคำตลาดโลก (Gold Spot) อยู่ที่ 2,406 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ณ อัตราแลกเปลี่ยนที่ระดับ 36.40บาทต่อดอลลาร์ อ่านข่าว: “ราคาทอง” เช้านี้ ร่วง 100 บาท “รูปพรรณ” ขายออก 41,900 บาท "ราคาทอง" เช้านี้ เปิดตลาดร่วง 350 บาท "รูปพรรณ" ขายออก 42,100 บาท วิกฤตการเงิน "วัยทำงาน" แก่ก่อนรวย ขาดวินัยการออม ปิดตำนาน ข้าวสาร 10 ปี ส้มหล่น“ทรัพย์แสงทอง ไรซ์-สหธัญ ”
วันนี้ (4 ม.ค.2565) สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน รวมทั้งสำนักงานสถิ
เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.2568 อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ออกแถลงการณ์ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียถึ
ล่าสุดปรับตัวขึ้นกว่า 20.40% จากต้นปีที่ 2,483 ดอลลาร์ ถือว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All-Time H
ล่าสุดปรับตัวขึ้นกว่า 20.40% จากต้นปีที่ 2,483 ดอลลาร์ ถือว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All-Time High) ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศปรับตัวขึ้นกว่า 25.26% จากต้นปี โดยราคาทองแท่ง 96.5% ได้ขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ 42,150 บาท ทั้งนี้ราคาทองคำปรับตัวทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบนี้ จากธนาคารกลางสหรัฐมีสัญญาณชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ย รวมทั้งนักลงทุนอาจมีความกังวลเกี่ยวกับ ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทั้งตลาดแรงงานที่เริ่มอ่อนแอลง และมีการปรับลดการจ้างงาน NFP เดือนเม.ย.และเดือนพ.ค.ที่ประกาศก่อนหน้านี้ลดลงด้วยกว่า 5 หมื่นตำแหน่ง เงินเฟ้อทั้ง Core PCE เริ่มชะลอตัวลง โดยเพิ่มขึ้น 2.6% หลังจากทรงตัวที่ 2.8% ติดต่อกัน 4 เดือน ล่าสุดเงินเฟ้อ CPI ชะลอตัวลงและต่ำกว่าคาด ดังนั้นการชะลอตัวลงของเงินเฟ้อ อาจทำให้เฟดพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น ขณะที่สัญญาณจากเจ้าหน้าที่เฟดต่างออกมาสนับสนุน การปรับลดดอกเบี้ยให้เร็วขึ้น ทำให้ตลาดคาดว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยปีนี้ 3 ครั้ง จากเดิม 2 ครั้ง สำหรับการลงทุนระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว “ฮั่วเซ่งเฮง” มองว่า ระยะสั้นคาดว่าราคาทองคำมีโอกาสปรับฐาน หลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นพุ่งแรงสู่ All-Time High ซึ่งอาจมีแรงเทขายทำกำไรนั่นเป็นเรื่องปกติ ทั้งนี้การลงทุนในระยะสั้นนั้นควรให้ความสำคัญกับเรื่องของวินัยในการลงทุน การเลือกตราสารที่เหมาะสม นอกจากนี้ การสะสมเข้าซื้อทองคำแท่งยังคงแนะนำเช่นกัน สำหรับการลงทุนที่มีความมั่นคงและปลอดภัยกว่า ซึ่งสามารถทยอยเข้าซื้อสะสมทองคำแท่งในช่วงที่ราคาทองคำปรับฐานหรือปรับตัวลง ส่วนการลงทุนระยะกลางและระยะยาวนั้น แนะนำให้ถือทองหรือใช้วิธีการทยอยซื้อ เพราะด้วยดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มเป็นขาลง รวมทั้งโอกาสที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยยังเป็นปัจจัยบวกต่อทองคำในอนาคต หลายปีที่ผ่านมา ดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นทองคำก็ยังให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ ทั้งนี้ดอกเบี้ยสหรัฐเริ่มกลับมาทิศทางขาลง ซึ่งอาจทำให้หนุนราคาทองคำเป็นขาขึ้นได้อีก จึงค่อนข้างสบายใจได้ในการลงทุนระยะกลางและระยะยาว สำหรับสัปดาห์นี้คาดว่าราคาทองคำอาจปรับฐาน แต่คาดว่าราคาทองคำยังคงยืนเหนือระดับ 2,360-2,370 ดอลลาร์ แนะนำเข้าซื้อบริเวณแนวรับ 2,370 ดอลลาร์ และแนวรับ 2,360 ดอลลาร์ เป็นแนวรับที่สามารถเราคาบอลสูง 2.5ข้าซื้อได้ ขณะที่มีแนวต้าน 2,430 ดอลลาร์ และแนวต้าน 2,460 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 41,000 บาท และ 40,800 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 41,700 บาท และ 41,900 บาท สำหรับราคาทองวันนี้ ไม่เปลี่ยนแปลง ส่งผลให้ราคาทองคำแท่งขายออกบาทละ 41,400 บาท และราคาทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 41,300 บาท ราคาทองรูปพรรณขายออกบาทละ 41,900 บาท และราคาทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 40,553 บาท ราคาทองคำตลาดโลก (Gold Spot) อยู่ที่ 2,406 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ณ อัตราแลกเปลี่ยนที่ระดับ 36.40บาทต่อดอลลาร์ อ่านข่าว: “ราคาทอง” เช้านี้ ร่วง 100 บาท “รูปพรรณ” ขายออก 41,900 บาท "ราคาทอง" เช้านี้ เปิดตลาดร่วง 350 บาท "รูปพรรณ" ขายออก 42,100 บาท วิกฤตการเงิน "วัยทำงาน" แก่ก่อนรวย ขาดวินัยการออม ปิดตำนาน ข้าวสาร 10 ปี ส้มหล่น“ทรัพย์แสงทอง ไรซ์-สหธัญ ”
วันนี้ (1 มี.ค.2567) นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ระบุว่า ได้ทบทวนกฎหมาย