วันนี้ (29 ม.ค.66) ตัวแทนลูกบ้านหมู่บ้านจัดสรรประช

รัฐสภาญี่ปุ่นประกาศรับรองนายกรัฐมนตรีคนใหม่ รัฐสภาญี่ปุ่นประกาศรับรองนายโยชิฮิโกะ โนดะ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่านายโนดะจะต้องเผชิญกับปัญหาทั้งด้านการบริหารประเทศ และปัญหาการเ
วันนี้ (15 ส.ค.2565) เวลา 19.30 น. พ.ต.ต.ชนัฐชัย วงศ์วิจิตร สารวัตรเวร สภ.บ้านค่าย จ.ระยอง รับแจ้งมีผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงคนในปั๊มน้ำมัน ปตท. ช.อำนวยทรัพย์ คอนกรีต เลขที่ 222 หมู่ 4 ต.บ้านค่าย อ.บ้า
วันนี้ (8 ธ.ค.2565) นายบุญเกื้อ สมนึก ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนกรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐเก็บตัวอย่างสารพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) ของชาวบ้านกว่า 50 คนในหมู่บ้านแกน้อย หย่อมบ้านถ้ำ และบ้านหนองเขียว ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีกลุ่มชาติพันธุ์ลาหู่อาศัยอยู่ โดยในจำนวนนี้มีเด็กที่อายุยังไม่ครบ 18 ปี บริบูรณ์ 3 คน ถูกตรวจเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอไปด้วย โดยที่เจ้าหน้าที่ไม่แจ้งข้อมูลที่จำเป็นให้แก่บุคคลที่จะต้องถูกเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอทราบ และไม่ได้รับความยินยอมโดยสมัครใจอย่างแท้จริง อีกทั้งยังไม่มีการดำเนินการ เพื่อให้สอดคล้องกับอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ซึ่ง กสม. ได้มีมติเมื่อวันที่ 21 มี.ค.65 ว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน พร้อมทั้งมีข้อเสนอแนะในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดยเสนอให้มีนักสังคมสงเคราะห์หรือสหวิชาชีพเข้าร่วมในกระบวนการจัดเก็บดีเอ็นเอของเด็ก ให้แจ้งผลการตรวจดีเอ็นเอให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยึดยาเสพติดทราบ และให้ลบข้อมูลดีเอ็นเอของชาวบ้านทั้งสองหมู่บ้านที่ถูกจัดเก็บโดยไม่ได้รับความยินยอมออกจากฐานข้อมูล อ่านข่าวเพิ่ม กสม.ชี้เก็บ DNA ชาติพันธุ์ลาหู่ เข้าข่ายละเมิดสิทธิมนุษยชน ต่อมาปรากฏข้อเท็จจริงว่า สตช.ไม่ได้ดำเนินการตามข้อเสนอแนะของ กสม. โดยไม่มีเหตุอันสมควร ประกอบกับ กสม.ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าการดำเนินโครงการเก็บและตรวจดีเอ็นเอของบุคคลกลุ่มเสี่ยงและวัตถุพยานที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและคดีอาญาอื่นๆ ซึ่งเป็นโครงการที่บูรณาการร่วมกันระหว่าง สตช. และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด มีลักษณะเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน เนื่องจากโครงการดังกล่าวไม่ได้อาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 131 และมาตรา 131/1 ที่กำหนดให้เป็นอำนาจของพนัก งานสอบสวน โดยมีหลักเกณฑ์และวิธีการที่ต้องปฏิบัติโดยเคร่งครัด กระทำเท่าที่จำเป็น และจะต้องได้รับความยินยอมโดยสมัครใจและอิสระจากบุคคลที่ถูกเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ เนื่องจากมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย และสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัวของบุคคล ประกอบกับโครงการฯ ได้กำหนดเป้าหมายของบุคคลกลุ่มเสี่ยงที่จะเก็บและตรวจดีเอ็นเอไว้อย่างกว้าง ครอบคลุมบุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดด้วย อันถือเป็นการเลือกปฏิบัติต่อบุคคลโดยไม่เป็นธรรม ที่ประชุมกสม.พิจารณาผลการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ความเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิ และองค์กรภาคประชาสังคมแล้ว เห็นว่า สตช. ไม่ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนกรณีการเก็บ และตรวจดีเอ็นเอของชาวบ้านกลุ่มชาติพันธุ์ลาหู่ กรณีดังกล่าวตามข้อเสนอแนะของ กสม. อย่างเป็นรูปธรรม ประกอบกับการดำเนินโครงการเก็บและตรวจสารพันธุกรรมของบุคคลกลุ่มเสี่ยงโดยความร่วมมือของ สตช. และสำนักงาน ป.ป.ส. ยังเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเชิงระบบ จึงเห็นควรมีหนังสือแจ้งข้อเสนอแนะในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนไปยังนายกรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้พิจารณาสั่งการให้ สตช.และสำนักงาน ป.ป.ข่าว กีฬา สั้นส. ดำเนินการตามข้อเสนอแนะของ กสม. และให้ยกเลิกการดำเนินโครงการเก็บและตรวจสารพันธุกรรมของบุคคลกลุ่มเสี่ยงและวัตถุพยานที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและคดีอาญาอื่น ๆ หากมีความจำเป็นต้องเก็บและตรวจสารพันธุกรรมก็ให้ดำเนินการตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
วันนี้ (24 พ.ค.2564) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรียกประชุมศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเ
วันนี้ (31 ม.ค.2566) นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รักษาการอธิบดีกรมเจ้าท่า ได้มอบหมายให้นายภูริพัฒน์ ธีระกุ
วันนี้ (7 ก.พ.2565) ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว สามารถจับกุม นักโทษชาย ประ
วันนี้ (8 ธ.ค.2565) นายบุญเกื้อ สมนึก ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวว่า ตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนกรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐเก็บตัวอย่างสารพันธุกรรม (ดีเอ็นเอ) ของชาวบ้านกว่า 50 คนในหมู่บ้านแกน้อย หย่อมบ้านถ้ำ และบ้านหนองเขียว ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีกลุ่มชาติพันธุ์ลาหู่อาศัยอยู่ โดยในจำนวนนี้มีเด็กที่อายุยังไม่ครบ 18 ปี บริบูรณ์ 3 คน ถูกตรวจเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอไปด้วย โดยที่เจ้าหน้าที่ไม่แจ้งข้อมูลที่จำเป็นให้แก่บุคคลที่จะต้องถูกเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอทราบ และไม่ได้รับความยินยอมโดยสมัครใจอย่างแท้จริง อีกทั้งยังไม่มีการดำเนินการ เพื่อให้สอดคล้องกับอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ซึ่ง กสม. ได้มีมติเมื่อวันที่ 21 มี.ค.65 ว่าการดำเนินการดังกล่าวเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน พร้อมทั้งมีข้อเสนอแนะในการป้องกันและแก้ไขปัญหาไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) โดยเสนอให้มีนักสังคมสงเคราะห์หรือสหวิชาชีพเข้าร่วมในกระบวนการจัดเก็บดีเอ็นเอของเด็ก ให้แจ้งผลการตรวจดีเอ็นเอให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยึดยาเสพติดทราบ และให้ลบข้อมูลดีเอ็นเอของชาวบ้านทั้งสองหมู่บ้านที่ถูกจัดเก็บโดยไม่ได้รับความยินยอมออกจากฐานข้อมูล อ่านข่าวเพิ่ม กสม.ชี้เก็บ DNA ชาติพันธุ์ลาหู่ เข้าข่ายละเมิดสิทธิมนุษยชน ต่อมาปรากฏข้อเท็จจริงว่า สตช.ไม่ได้ดำเนินการตามข้อเสนอแนะของ กสม. โดยไม่มีเหตุอันสมควร ประกอบกับ กสม.ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าการดำเนินโครงการเก็บและตรวจดีเอ็นเอของบุคคลกลุ่มเสี่ยงและวัตถุพยานที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและคดีอาญาอื่นๆ ซึ่งเป็นโครงการที่บูรณาการร่วมกันระหว่าง สตช. และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด มีลักษณะเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน เนื่องจากโครงการดังกล่าวไม่ได้อาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 131 และมาตรา 131/1 ที่กำหนดให้เป็นอำนาจของพนัก งานสอบสวน โดยมีหลักเกณฑ์และวิธีการที่ต้องปฏิบัติโดยเคร่งครัด กระทำเท่าที่จำเป็น และจะต้องได้รับความยินยอมโดยสมัครใจและอิสระจากบุคคลที่ถูกเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอ เนื่องจากมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย และสิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัวของบุคคล ประกอบกับโครงการฯ ได้กำหนดเป้าหมายของบุคคลกลุ่มเสี่ยงที่จะเก็บและตรวจดีเอ็นเอไว้อย่างกว้าง ครอบคลุมบุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดด้วย อันถือเป็นการเลือกปฏิบัติต่อบุคคลโดยไม่เป็นธรรม ที่ประชุมกสม.พิจารณาผลการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ความเห็นของผู้ทรงคุณวุฒิ และองค์กรภาคประชาสังคมแล้ว เห็นว่า สตช. ไม่ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนกรณีการเก็บ และตรวจดีเอ็นเอของชาวบ้านกลุ่มชาติพันธุ์ลาหู่ กรณีดังกล่าวตามข้อเสนอแนะของ กสม. อย่างเป็นรูปธรรม ประกอบกับการดำเนินโครงการเก็บและตรวจสารพันธุกรรมของบุคคลกลุ่มเสี่ยงโดยความร่วมมือของ สตช. และสำนักงาน ป.ป.ส. ยังเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเชิงระบบ จึงเห็นควรมีหนังสือแจ้งข้อเสนอแนะในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนไปยังนายกรัฐมนตรี เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้พิจารณาสั่งการให้ สตช.และสำนักงาน ป.ป.ข่าว กีฬา สั้นส. ดำเนินการตามข้อเสนอแนะของ กสม. และให้ยกเลิกการดำเนินโครงการเก็บและตรวจสารพันธุกรรมของบุคคลกลุ่มเสี่ยงและวัตถุพยานที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและคดีอาญาอื่น ๆ หากมีความจำเป็นต้องเก็บและตรวจสารพันธุกรรมก็ให้ดำเนินการตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
วันนี้ (8 ธ.ค.2565) นายบุญเกื้อ สมนึก ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวว่า