วันนี้ (8 ก.ย.2564) นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน แถลงสถานการณ์การแพร่ะระบาดของโรค โควิด -19 พบว่า วันนี้ไทยพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 14,176 คน เป็นการติดเชื้อใหม่ 13,670

องค์กรนายจ้างขู่ย้ายฐานการผลิต หากเดินหน้าขึ้นค่าแรง 300 บาท กระทรวงแรงงาน ยืนยัน จะต้องขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท และ จะนำมาตรการลดภาษีและลดการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ขณะที่ประธานองค์กรนายจ้างเสนอให้ปรับขั้นค่าแจ้งแบบขั้นบันใด ไม่เช่นนั้นอาจทำให้บริษัทรับเหมาช่วงปิดกิจการ หรือ ย้ายฐานการผลิตไปประเทศเพื่อนบ้าน องค์กรนายจ้างขู่ย้ายฐานการผลิต หากเดินหน้าขึ้นค่าแรง 300 บาท ในการสัมมนาทางออกของนโยบายการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท โดยสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทยนายดรากั้น เรดิก ผู้เชี่ยวชาญฝ่ายนายจ้างองค์การแรงงานระหว่างประเทศ บอกว่า การปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทจะกระทบต่อนายจ้างโดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขยาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี เพราะต้องปรับลดคนงาน หรือ ย้ายฐานการผลิต ซึ่งขณะนี้เริ่มมีการย้ายฐานการผลิตไปบางแล้ว ดังนั้นรัฐบาลควรให้เวลาในการปรับตัวโดยการปรับขึ้นแบบขั้นบันได เพราะการปรับลดภาษีเป็นเพียงมาตรการที่ช่วยเหลือธุรกิจขนาดใหญ่เท่านั้น ขณะที่ประธานสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทยเห็นด้วยกับการพัฒนาฝีมือแรงงาน เพราะจะช่วยลดต้นทุนการผลิตให้กับนายจ้าง โดยขณะนี้เป็นห่วงธุรกิจเอสเอ็มอี จำนวนหลายหมื่นแห่งที่กำลังประสบปัญหา รวมถึงบริษัทซับคอนแท็ค หรือ บริษัทรับเหมาช่วง เพราะจะได้รับผลกระทบมากที่สุดเพราะกลุ่มนี้มีค่าแรงเป็นต้นทุน ซึ่งอาจจะต้องเลิกจ้างแรงงานในกลุ่มนี้ หรือ อาจย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่มีค่าจ้างถูกกว่า เช่นประเทศ กัมพูชา และ ในเดือนกันยายนนี้จะรวบรวมปัญหาของนายจ้างทั้งหมดเพื่อเสนอกับกระทรวงแรงงาน นำไปกำหนดเป็นนโยบายต่อไป ด้านนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ยืนยันว่า การปรับขึ้นค่าแรงจะยึดหลักให้ทุกฝ่ายอยู่ได้ ซึ่งมาตรการช่วยเหลือฝ่ายนายจ้างในเบื้องต้นจะมีมาตรการลดภาษี และ การลดการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม ซึ่งจะหาตัวเลขที่เหมาะสมและจะใช้เป็นมาตราการชั่วคราวเท่านั้น ส่วนการช่วยลดต้นทุนในด้านอื่น เช่น ค่าน้ำ หรือค่าไฟ จะต้องรือกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องรวมถึงรับฟังปัญหาทั้งหมดจากนายจ้างก่อนเพื่อเป็นการแก้ปัญหาให้ตรงจุด ในการสัมมนาทางออกของนโยบายการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท โดยสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทยนายดรากั้น เรดิก ผู้เชี่ยวชาญฝ่ายนายจ้างองค์การแรงงานระหว่างประเทศ บอกว่า การปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทจะกระทบต่อนายจ้างโดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขยาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี เพราะต้องปรับลดคนงาน หรือ ย้ายฐานการผลิต ซึ่งขณะนี้เริ่มมีการย้ายฐานการผลิตไปบางแล้ว ดังนั้นรัฐบาลควรให้เวลาในการปรับตัวโดยการปรับขึ้นแบบขั้นบันได เพราะการปรับลดภาษีเป็นเพียงมาตรการที่ช่วยเหลือธุรกิจขนาดใหญ่เท่านั้วิเคราะห์บอล ลีก วันนี้ kickคูปอง wm casino ล่าสุดน ขณะที่ประธานสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทยเห็นด้วยกับการพัฒนาฝีมือแรงงาน เพราะจะช่วยลดต้นทุนการผลิตให้กับนายจ้าง โดยขณะนี้เป็นห่วงธุรกิจเอสเอ็มอี จำนวนหลายหมื่นแห่งที่กำลังประสบปัญหา รวมถึงบริษัทซับคอนแท็ค หรือ บริษัทรับเหมาช่วง เพราะจะได้รับผลกระทบมากที่สุดเพราะกลุ่มนี้มีค่าแรงเป็นต้นทุน ซึ่งอาจจะต้องเลิกจ้างแรงงานในกลุ่มนี้ หรือ อาจย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่มีค่าจ้างถูกกว่า เช่นประเทศ กัมพูชา และ ในเดือนกันยายนนี้จะรวบรวมปัญหาของนายจ้างทั้งหมดเพื่อเสนอกับกระทรวงแรงงาน นำไปกำหนดเป็นนโยบายต่อไป ด้านนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ยืนยันว่า การปรับขึ้นค่าแรงจะยึดหลักให้ทุกฝ่ายอยู่ได้ ซึ่งมาตรการช่วยเหลือฝ่ายนายจ้างในเบื้องต้นจะมีมาตรการลดภาษี และ การลดการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม ซึ่งจะหาตัวเลขที่เหมาะสมและจะใช้เป็นมาตราการชั่วคราวเท่านั้น ส่วนการช่วยลดต้นทุนในด้านอื่น เช่น ค่าน้ำ หรือค่าไฟ จะต้องรือกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องรวมถึงรับฟังปัญหาทั้งหมดจากนายจ้างก่อนเพื่อเป็นการแก้ปัญหาให้ตรงจุด

องค์กรนายจ้างขู่ย้ายฐานการผลิต หากเดินหน้าขึ้นค่าแรง 300 บาท กระทรวงแรงงาน ยืนยัน จะต้องขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท และ จะนำมาตรการลดภาษีและลดการจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบ

วันนี้ (5 ก.พ.2565) น.ส.รังสิพรรณ พูลพันธ์ เจ้าของร้านในตลาดนัดหลังกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า โครงการ

นิยายชีวิต โดย : Lida Puspaningtyas
เรื่องและภาพโดย : Lida Puspaningtyas
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” ได้ที่นี่..