วันนี้ (6 มี.ค.2567) สมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (The International Association of Horticultural Producเดิมพันฟรี จีคลับ สล็อต มือถือ
วันนี้ (24 ก.พ.2565) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรม
หนึ่งในความสัมพันธ์ทางการเมืองที่ถูกจับตามองมากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ คือมิตรภาพที่ไม่มีใครคาดคิดระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ ปธน.สหรัฐฯ กับ อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก และบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 21 เพียง 6 เดือนหลังจากที่เคยเป็นผู้วิพากษ์วิจารณ์ทรัมป์อย่างรุนแรง มัสก์เปลี่ยนบทบาทมาเป็นหัวหอกในการผลักดันแนวทางปฏิรูประบบราชการแบบฝ่ายขวา โดยมีอำนาจในรัฐบาลทรัมป์ชุดใหม่อย่างที่ไม่มีใครคาดคิด อีลอน มัสก์ และ โดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ใช่พันธมิตรกันตั้งแต่ต้น ย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 มัสก์เคยลาออกจากที่ปรึกษาทำเนียบขาวเพื่อต่อต้านการถอนตัวของสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงปารีสด้านสิ่งแวดล้อม และแสดงความไม่พอใจต่อหลาย ๆ นโยบายของทรัมป์ แต่จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อ โจ ไบเดน ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี และเลือกสนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าที่มีสหภาพแรงงานเป็นฐาน แทนที่จะให้ความสำคัญกับ Tesla ของมัสก์ ทำให้เขาเริ่มเบนเข็มไปทางขวา โดยแสดงความไม่พอใจผ่านแพลตฟอร์ม X และเริ่มมีแนวคิดอนุรักษ์นิยมมากขึ้น ในช่วงต้นของการเลือกตั้งปี 2024 มัสก์เคยสนับสนุน รอน เดอซานติส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา แต่เมื่อเดอซานติสพ่ายแพ้ มัสก์ก็เริ่มเข้าใกล้ทรัมป์มากขึ้น และกลายเป็นหนึเดิมพันฟรี จีคลับ สล็อต มือถือ่งในบุคคลที่ทรัมป์รับฟังมากที่สุดในเรื่องเทคโนโลยีและเศรษฐกิจ เหตุการณ์ที่กระตุ้นให้มัสก์สนับสนุนทรัมป์อย่างเต็มตัวคือ เหตุลอบยิงทรัมป์ในเมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งทำให้เขาเร่งสนับสนุนแนวทางรัฐบาลที่เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพ โดยไม่ได้ช่วยเหลือแค่ด้านการเงิน แต่ยังเสนอแนวคิดปฏิรูปรัฐบาลที่ไม่เคยมีมาก่อน หลังจากทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง มัสก์ได้รับตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (Department of Government Efficiency - DOGE) ซึ่งเป็นหน่วยงานใหม่ที่ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อปฏิรูประบบราชการตามแนวคิด "ลดขนาดรัฐ เพิ่มประสิทธิภาพ" ทันทีที่เข้ารับตำแหน่ง มัสก์เดินหน้า ใช้ AI แทนข้าราชการจำนวนมาก ลดจำนวนพนักงานภาครัฐ และนำแนวคิดแบบซิลิคอนแวลลีย์มาใช้ในรัฐบาล ทำให้เกิดทั้งเสียงชื่นชมจากฝ่ายอนุรักษ์นิยมและเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากข้าราชการ หนึ่งในมาตรการที่รุนแรงที่สุดของมัสก์คือ การรื้อ USAID (หน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ) ภายในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ เว็บไซต์ของ USAID ถูกปิด โซเชียลมีเดียถูกลบ เจ้าหน้าที่หลายร้อยคนถูกปลด และงบประมาณถูกโอนกลับมาใช้ในประเทศ มัสก์ประกาศว่า USAID เป็น "องค์กรอาชญากรรม" ที่ใช้เงินภาษีอเมริกันไปสนับสนุนต่างชาติอย่างไม่จำเป็น ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์จากฝ่ายซ้ายและองค์กรสิทธิมนุษยชน ขณะที่ฝ่ายขวายกย่องว่าเขาคือ "วีรบุรุษที่คืนอำนาจให้ประชาชน" สไตล์บริหารของมัสก์ในรัฐบาลทรัมป์เหมือนกับที่เขาใช้ใน Tesla และ SpaceX เขาต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว ไม่ทนต่อข้อแก้ตัว และพร้อมไล่คนออกหากทำงานไม่ได้ตามเป้า ข้าราชการหลายคนเริ่มเผชิญกับแนวคิด "Move Fast, Break Things" หรือ "ขยับให้เร็ว พังแล้วแก้ไข" ซึ่งเป็นแนวทางที่อาจใช้ได้ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี แต่ไม่มีใครแน่ใจว่าจะได้ผลกับรัฐบาลหรือไม่ หลายหน่วยงานต้องรายงานผลการทำงานแบบ Data-Driven เหมือนที่มัสก์ใช้ใน Tesla และ SpaceX ทำให้เกิดทั้งแรงกดดันและแรงต้านจากข้าราชการจำนวนมาก แม้ว่ามัสก์จะเป็นหนึ่งในบุคคลที่ใกล้ชิดทรัมป์ที่สุด แต่เขากลับ ไม่ต้องรายงานโดยตรงต่อทรัมป์ และมักทำงานร่วมกับที่ปรึกษาระดับสูงของทรัมป์ เช่น สตีเฟน มิลเลอร์ และ รัสเซล โวห์ต์ มากกว่าทรัมป์เอง แม้ทรัมป์จะให้สัมภาษณ์ว่าสิ่งที่มัสก์ทำจะต้องได้รับการอนุมัติจากเขาก็ตาม แต่ในทางปฏิบัติ ดูเหมือนว่าอภิมหาเศรษฐีรายนี้ กำลังบริหารงานบางส่วนของรัฐบาลสหรัฐฯ "ตามความพอใจของตนเอง" และไม่มีมาตรการควบคุมใดที่สามารถบังคับใช้กับเขาได้จริง ๆ อิทธิพลของมัสก์ยิ่งเห็นได้ชัดเมื่อ X Æ A-12 (X) ลูกชายวัย 4 ขวบของมัสก์ ปรากฏตัวในห้องทำงานรูปไข่ (Oval Office) ของทำเนียบขาว ระหว่างการประชุมระดับสูงกับเจ้าหน้าที่รัฐบาล ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า มัสก์กำลังส่งสัญญาณบางอย่างเกี่ยวกับอนาคต แหล่งข่าวระบุว่า มัสก์สามารถพาลูกชายเข้าไปใน Oval Office ได้อย่างอิสระ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นกับบุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกครอบครัวของประธานาธิบดี เหตุการณ์นี้ถูกเปรียบเทียบกับวัฒนธรรมการเมืองของเผด็จการ ที่มักนำครอบครัวเข้าสู่เวทีอำนาจเพื่อปูทางในระยะยาว มัสก์ มักแสดงออกถึงแนวคิดเกี่ยวกับอนาคตของ X ลูกชายของเขา ในอดีต มัสก์เคยพูดถึง X ว่าเป็น "เด็กอัจฉริยะ" และมักพาเขาเข้าร่วมการประชุมสำคัญของบริษัท เช่น SpaceX และ Tesla แต่การที่เด็กวัยเพียงไม่กี่ขวบ ปรากฏตัวใน Oval Office ซึ่งเป็นศูนย์กลางของอำนาจทางการเมืองของสหรัฐฯ ทำให้หลายคนสงสัยว่า มัสก์อาจกำลังปูทางให้ X มีบทบาทสำคัญในอนาคต บางฝ่ายมองว่า นี่เป็นเพียงความเป็นพ่อที่ต้องการให้ลูกชายสัมผัสประสบการณ์สำคัญ แต่บางคนตั้งข้อสังเกตว่า มัสก์อาจกำลังใช้โอกาสนี้สร้างภาพลักษณ์ "ทายาทแห่งอำนาจ" ที่อาจมีบทบาทในอนาคต ความสัมพันธ์ที่แนบแน่นระหว่าง อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก และ โดนัลด์ ทรัมป์ ปธน.สหรัฐฯ กำลังก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการผสมผสานระหว่างอำนาจทางธุรกิจและอำนาจทางการเมืองในสหรัฐอเมริกา หลังจากที่มัสก์เข้ามามีบทบาทสำคัญในการให้คำปรึกษาแก่ทรัมป์ในเรื่องต่าง ๆ ทั้งการปรับโครงสร้างรัฐบาลและการตัดลดค่าใช้จ่าย ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับขอบเขตอำนาจของภาคเอกชนที่มีต่อการดำเนินนโยบายของรัฐบาล นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า มัสก์กำลังพยายามขยายอิทธิพลของตนเข้าสู่วงการการเมืองอย่างเป็นรูปธรรม และอาจมีเป้าหมายทางการเมืองที่สูงขึ้นในอนาคต แม้ว่าตามกฎหมายสหรัฐฯ จะมีข้อจำกัดสำหรับบุคคลที่เกิดนอกประเทศ (มัสก์เกิดในแอฟริกาใต้) แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามัสก์มีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์เหล่านั้น ความสัมพันธ์ระหว่างทรัมป์และมัสก์ที่ดูเหมือนจะแน่นแฟ้น อาจไม่ยั่งยืนในระยะยาว เนื่องจากบุคลิกที่แข็งแกร่งและความต้องการควบคุมของทั้ง 2 ฝ่าย อาจนำไปสู่ความขัดแย้งและการแยกทางกันในอนาคต และอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกันยุคใหม่ รู้หรือไม่ : Resolute Desk โต๊ะทำงานเก่าแก่อายุ 125 ปี สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งอังกฤษ พระราชทานเป็นของขวัญให้แก่ รัทเธอร์ฟอร์ด เฮย์ส ปธน.คนที่ 19 ของสหรัฐฯ เมื่อปี 1880 เป็นโต๊ะตัวเดียวกันกับที่ X ลูกชายมัสก์ แคะขี้มูกแล้วแปะไว้ ที่มา : BBC, The New York Times อ่านข่าวอื่น : รัฐธรรมนูญ 2560 แก้ได้ หรือ ห้ามแก้? "อนุทิน" ย้ำจุดยืนไม่แก้ รธน. ชี้เสี่ยงผิดกฎหมาย
วันนี้ (14 ก.ย.2566) พล.ต.ต.พิสิฐ ตันประเสริฐ รองผู้บัญชาการสอบสวนกลาง ปฏิบัติราชการแทน พล.ต.ท.จิรภพ
เดิมพันฟรี จีคลับ สล็อต มือถือ -เครดิต ฟรี ไม่ ต้อง ฝาก ก่อน ถอน ได้, เกมย งปลา ios ufabet, ฝาก 20 รับ 100 ทํา 200 ถอน ได้ 100
วันนี้ (6 มี.ค.2567) สมาคมพืชสวนระหว่างประเทศ (The International Association of Horticultural Producเดิมพันฟรี จีคลับ สล็อต มือถือ
วันนี้ (24 ก.พ.2565) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรม
หนึ่งในความสัมพันธ์ทางการเมืองที่ถูกจับตามองมากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ คือมิตรภาพที่ไม่มีใครคาดคิดระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ ปธน.สหรัฐฯ กับ อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก และบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 21 เพียง 6 เดือนหลังจากที่เคยเป็นผู้วิพากษ์วิจารณ์ทรัมป์อย่างรุนแรง มัสก์เปลี่ยนบทบาทมาเป็นหัวหอกในการผลักดันแนวทางปฏิรูประบบราชการแบบฝ่ายขวา โดยมีอำนาจในรัฐบาลทรัมป์ชุดใหม่อย่างที่ไม่มีใครคาดคิด อีลอน มัสก์ และ โดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ใช่พันธมิตรกันตั้งแต่ต้น ย้อนกลับไปเมื่อปี 2017 มัสก์เคยลาออกจากที่ปรึกษาทำเนียบขาวเพื่อต่อต้านการถอนตัวของสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงปารีสด้านสิ่งแวดล้อม และแสดงความไม่พอใจต่อหลาย ๆ นโยบายของทรัมป์ แต่จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อ โจ ไบเดน ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี และเลือกสนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าที่มีสหภาพแรงงานเป็นฐาน แทนที่จะให้ความสำคัญกับ Tesla ของมัสก์ ทำให้เขาเริ่มเบนเข็มไปทางขวา โดยแสดงความไม่พอใจผ่านแพลตฟอร์ม X และเริ่มมีแนวคิดอนุรักษ์นิยมมากขึ้น ในช่วงต้นของการเลือกตั้งปี 2024 มัสก์เคยสนับสนุน รอน เดอซานติส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา แต่เมื่อเดอซานติสพ่ายแพ้ มัสก์ก็เริ่มเข้าใกล้ทรัมป์มากขึ้น และกลายเป็นหนึเดิมพันฟรี จีคลับ สล็อต มือถือ่งในบุคคลที่ทรัมป์รับฟังมากที่สุดในเรื่องเทคโนโลยีและเศรษฐกิจ เหตุการณ์ที่กระตุ้นให้มัสก์สนับสนุนทรัมป์อย่างเต็มตัวคือ เหตุลอบยิงทรัมป์ในเมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งทำให้เขาเร่งสนับสนุนแนวทางรัฐบาลที่เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพ โดยไม่ได้ช่วยเหลือแค่ด้านการเงิน แต่ยังเสนอแนวคิดปฏิรูปรัฐบาลที่ไม่เคยมีมาก่อน หลังจากทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง มัสก์ได้รับตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (Department of Government Efficiency - DOGE) ซึ่งเป็นหน่วยงานใหม่ที่ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อปฏิรูประบบราชการตามแนวคิด "ลดขนาดรัฐ เพิ่มประสิทธิภาพ" ทันทีที่เข้ารับตำแหน่ง มัสก์เดินหน้า ใช้ AI แทนข้าราชการจำนวนมาก ลดจำนวนพนักงานภาครัฐ และนำแนวคิดแบบซิลิคอนแวลลีย์มาใช้ในรัฐบาล ทำให้เกิดทั้งเสียงชื่นชมจากฝ่ายอนุรักษ์นิยมและเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากข้าราชการ หนึ่งในมาตรการที่รุนแรงที่สุดของมัสก์คือ การรื้อ USAID (หน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ) ภายในเวลาเพียง 2 สัปดาห์ เว็บไซต์ของ USAID ถูกปิด โซเชียลมีเดียถูกลบ เจ้าหน้าที่หลายร้อยคนถูกปลด และงบประมาณถูกโอนกลับมาใช้ในประเทศ มัสก์ประกาศว่า USAID เป็น "องค์กรอาชญากรรม" ที่ใช้เงินภาษีอเมริกันไปสนับสนุนต่างชาติอย่างไม่จำเป็น ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์จากฝ่ายซ้ายและองค์กรสิทธิมนุษยชน ขณะที่ฝ่ายขวายกย่องว่าเขาคือ "วีรบุรุษที่คืนอำนาจให้ประชาชน" สไตล์บริหารของมัสก์ในรัฐบาลทรัมป์เหมือนกับที่เขาใช้ใน Tesla และ SpaceX เขาต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว ไม่ทนต่อข้อแก้ตัว และพร้อมไล่คนออกหากทำงานไม่ได้ตามเป้า ข้าราชการหลายคนเริ่มเผชิญกับแนวคิด "Move Fast, Break Things" หรือ "ขยับให้เร็ว พังแล้วแก้ไข" ซึ่งเป็นแนวทางที่อาจใช้ได้ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี แต่ไม่มีใครแน่ใจว่าจะได้ผลกับรัฐบาลหรือไม่ หลายหน่วยงานต้องรายงานผลการทำงานแบบ Data-Driven เหมือนที่มัสก์ใช้ใน Tesla และ SpaceX ทำให้เกิดทั้งแรงกดดันและแรงต้านจากข้าราชการจำนวนมาก แม้ว่ามัสก์จะเป็นหนึ่งในบุคคลที่ใกล้ชิดทรัมป์ที่สุด แต่เขากลับ ไม่ต้องรายงานโดยตรงต่อทรัมป์ และมักทำงานร่วมกับที่ปรึกษาระดับสูงของทรัมป์ เช่น สตีเฟน มิลเลอร์ และ รัสเซล โวห์ต์ มากกว่าทรัมป์เอง แม้ทรัมป์จะให้สัมภาษณ์ว่าสิ่งที่มัสก์ทำจะต้องได้รับการอนุมัติจากเขาก็ตาม แต่ในทางปฏิบัติ ดูเหมือนว่าอภิมหาเศรษฐีรายนี้ กำลังบริหารงานบางส่วนของรัฐบาลสหรัฐฯ "ตามความพอใจของตนเอง" และไม่มีมาตรการควบคุมใดที่สามารถบังคับใช้กับเขาได้จริง ๆ อิทธิพลของมัสก์ยิ่งเห็นได้ชัดเมื่อ X Æ A-12 (X) ลูกชายวัย 4 ขวบของมัสก์ ปรากฏตัวในห้องทำงานรูปไข่ (Oval Office) ของทำเนียบขาว ระหว่างการประชุมระดับสูงกับเจ้าหน้าที่รัฐบาล ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่า มัสก์กำลังส่งสัญญาณบางอย่างเกี่ยวกับอนาคต แหล่งข่าวระบุว่า มัสก์สามารถพาลูกชายเข้าไปใน Oval Office ได้อย่างอิสระ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นกับบุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกครอบครัวของประธานาธิบดี เหตุการณ์นี้ถูกเปรียบเทียบกับวัฒนธรรมการเมืองของเผด็จการ ที่มักนำครอบครัวเข้าสู่เวทีอำนาจเพื่อปูทางในระยะยาว มัสก์ มักแสดงออกถึงแนวคิดเกี่ยวกับอนาคตของ X ลูกชายของเขา ในอดีต มัสก์เคยพูดถึง X ว่าเป็น "เด็กอัจฉริยะ" และมักพาเขาเข้าร่วมการประชุมสำคัญของบริษัท เช่น SpaceX และ Tesla แต่การที่เด็กวัยเพียงไม่กี่ขวบ ปรากฏตัวใน Oval Office ซึ่งเป็นศูนย์กลางของอำนาจทางการเมืองของสหรัฐฯ ทำให้หลายคนสงสัยว่า มัสก์อาจกำลังปูทางให้ X มีบทบาทสำคัญในอนาคต บางฝ่ายมองว่า นี่เป็นเพียงความเป็นพ่อที่ต้องการให้ลูกชายสัมผัสประสบการณ์สำคัญ แต่บางคนตั้งข้อสังเกตว่า มัสก์อาจกำลังใช้โอกาสนี้สร้างภาพลักษณ์ "ทายาทแห่งอำนาจ" ที่อาจมีบทบาทในอนาคต ความสัมพันธ์ที่แนบแน่นระหว่าง อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก และ โดนัลด์ ทรัมป์ ปธน.สหรัฐฯ กำลังก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการผสมผสานระหว่างอำนาจทางธุรกิจและอำนาจทางการเมืองในสหรัฐอเมริกา หลังจากที่มัสก์เข้ามามีบทบาทสำคัญในการให้คำปรึกษาแก่ทรัมป์ในเรื่องต่าง ๆ ทั้งการปรับโครงสร้างรัฐบาลและการตัดลดค่าใช้จ่าย ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับขอบเขตอำนาจของภาคเอกชนที่มีต่อการดำเนินนโยบายของรัฐบาล นักวิเคราะห์หลายคนมองว่า มัสก์กำลังพยายามขยายอิทธิพลของตนเข้าสู่วงการการเมืองอย่างเป็นรูปธรรม และอาจมีเป้าหมายทางการเมืองที่สูงขึ้นในอนาคต แม้ว่าตามกฎหมายสหรัฐฯ จะมีข้อจำกัดสำหรับบุคคลที่เกิดนอกประเทศ (มัสก์เกิดในแอฟริกาใต้) แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามัสก์มีความสามารถในการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์เหล่านั้น ความสัมพันธ์ระหว่างทรัมป์และมัสก์ที่ดูเหมือนจะแน่นแฟ้น อาจไม่ยั่งยืนในระยะยาว เนื่องจากบุคลิกที่แข็งแกร่งและความต้องการควบคุมของทั้ง 2 ฝ่าย อาจนำไปสู่ความขัดแย้งและการแยกทางกันในอนาคต และอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกันยุคใหม่ รู้หรือไม่ : Resolute Desk โต๊ะทำงานเก่าแก่อายุ 125 ปี สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งอังกฤษ พระราชทานเป็นของขวัญให้แก่ รัทเธอร์ฟอร์ด เฮย์ส ปธน.คนที่ 19 ของสหรัฐฯ เมื่อปี 1880 เป็นโต๊ะตัวเดียวกันกับที่ X ลูกชายมัสก์ แคะขี้มูกแล้วแปะไว้ ที่มา : BBC, The New York Times อ่านข่าวอื่น : รัฐธรรมนูญ 2560 แก้ได้ หรือ ห้ามแก้? "อนุทิน" ย้ำจุดยืนไม่แก้ รธน. ชี้เสี่ยงผิดกฎหมาย
วันนี้ (14 ก.ย.2566) พล.ต.ต.พิสิฐ ตันประเสริฐ รองผู้บัญชาการสอบสวนกลาง ปฏิบัติราชการแทน พล.ต.ท.จิรภพ