วันที่ 28 ก.พ.2568 นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง
"รอมฏอน" เป็นเดือนที่ 9 ตามปฏิทินทางจันทรคติของอิสลาม แต่ละปีชาวมุสลิมทั่วโลกจะ "ถือศีลอด" ตลอดทั้งเดือน โดยจะเริ่มถือศีลอดตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนถึงพระอาทิตย์ตก ซึ่งปีนี้ วันที่ 1 เดือนรอมฎอน ฮิจเราะ
"รอมฏอน" เป็นเดือนที่ 9 ตามปฏิทินทางจันทรคติของอิสลาม แต่ละปีชาวมุสลิมทั่วโลกจะ "ถือศีลอด" ตลอดทั้งเดือน โดยจะเริ่มถือศีลอดตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นจนถึงพระอาทิตย์ตก ซึ่งปีนี้ วันที่ 1 เดือนรอมฎอน ฮิจเราะห์ศักราช 1445 ตรงกับ วันอังคารที่ 12 มีนาคม 2567 ตามประกาศของสำนักจุฬาราชมนตรี ประกาศจุฬาราชมนตรี ประกาศจุฬาราชมนตรี รอมฎอน ถือเป็นเดือนที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของปี เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่เชื่อกันว่าพระผู้เป็นเจ้าประทานพระคัมภีร์อัลกุรอานลงมาให้แก่ นบีมูฮัมหมัด ศาสดาของศาสนาอิสลาม เพื่อใช้สั่งสอน และเป็นเครื่องชี้ทางให้แก่อิสลามิกชนทั่วโลก รอมฏอน เดือนที่ 9 ตามปฏิทินทางจันทรคติของอิสลาม ชาวมุสลิมทั่วโลกจะถือศีลอด รอมฏอน เดือนที่ 9 ตามปฏิทินทางจันทรคติของอิสลาม ชาวมุสลิมทั่วโลกจะถือศีลอด พระคัมภีร์ระบุว่า วันที่พระเจ้าประทานอัลกุรอานให้แก่ นบีมูฮัมหมัด คือ ช่วงวันที่ 26-27 ของเดือนรอมฎอน ซึ่งชาวมุสลิมถือว่า เป็นช่วงเวลาที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ด้วยเหตุนี้ ในเดือนรอมฎอน ชาวมุสลิมทุกคนจึงต้องรักษาศีล อดอาหารเพื่อฝึกฝนการบังคับตนเองและเพื่อให้เข้าถึงคำสอนของนบีมูฮัมหมัด รวมถึงใช้เวลาในการศึกษาพระคัมภีร์อัลกุรอานอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นการบูชาพระเป็นเจ้า เดือนนี้จึงมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า "เดือนบวช" ตลอดเดือนรอมฎอน 29-30 วัน หลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า ชาวมุสลิมจะปฏิบัติศาสนกิจเพื่ออัลเลาะห์ ด้วยการอดอาหาร งดเว้นเครื่องดื่ม พร้อมทั้งงดเว้นจากการร่วมประเวณี รวมทั้งเข้มงวดระมัดระวังตนเองไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับสิ่งต้องห้ามของศาสนา ไม่กระทำใดที่ขัดต่อคำสั่งของพระผู้เป็นเจ้า ดังนี้ ดังนั้นแก่นสาระของการถือศีลอดในเดือนรอมฎอน จึงมีจุดประสงค์ เพื่อให้อิสลามิกชนได้ตระหนักรู้ถึงความยากลำบาก ได้เรียนรู้อุปสรรคต่าง ๆ ในการดำเนินชีวิต การถือศีลอดจึงเป็นการปฏิบัติศาสนกิจเพื่อให้รู้จักอดทนอดกลั้นต่อความทุกข์ยากต่าง ๆ ด้วยความเพียร และสติปัญญา การถือศีลอด จึงเป็นกระบวนการฝึกฝนจิตใจของชาวมุสลิมให้เป็นผู้มีสติ การถือศีลจึงมีคุณประโยชน์อย่างยิ่งต่อการดำเนินชีวิต ต่อหน้าที่การงาน และกิจวัตรประจำวันของชาวมุสลิม การถือศีลอดในเดือนรอมฎอน เพื่อให้อิสลามิกชนได้ตระหนักรู้ถึงความยากลำบาก การถือศีลอดในเดือนรอมฎอน เพื่อให้อิสลามิกชนได้ตระหนักรู้ถึงความยากลำบาก การเริ่มต้นวัตรปฏิบัติต่าง ๆ ในเดือนรอมฎอน จะมีขึ้นตั้งแต่วันแรกของเดือน โดยการประกาศการเริ่มต้นเดือนรอมฎอนจะทำโดยผู้นำทางศาสนาของแต่ละท้องถิ่น ซึ่งจะกำหนดจากการสังเกตคืนที่ปรากฎดวงจันทร์เสี้ยวเป็นครั้งแรกหลังจากคืน เดือนมืดให้เป็นวันที่ 1 ของเดือน และนับไปจนครบ 29-30 วันตามแต่ปฏิทินฮิจเราะญ์ของแต่ละปี อย่างไรก็ตาม ชุมชนมุสลิมหลักของโลก ในตะวันออกกลาง การเริ่มเดือนรอมฎอนจะยึดตามคำประกาศของผู้นำศาสนาอิสลามในอียิปต์เป็นสำคัญ การอดอาหาร แม้จะเป็นส่วนสำคัญในวัตรปฏิบัติของเดือนรอมฎอน แต่อาหารก็เป็นส่วนสำคัญเช่นกัน โดยก่อนและหลังพระอาทิตย์ตก ชาวมุสลิมจะรับประทานอาหารอย่างอิ่มหนำสำราญร่วมกับครอบครัว โดยมีข้อบังคับว่าอาหารชนิดแรกที่อิสลามิกชนต้องรับประทานหลังจากถือศีลอดมา ทั้งวัน คือ "อินทผลัม" ตามด้วยอาหารหวานต่าง ๆ เพื่อชดเชยกับพลังงานที่สูญเสียไปจากการอดอาหาร แม้ว่าในช่วงพระอาทิตย์ตกดิน ชาวมุสลิมจะสามารถรับประทานอาหารได้ แต่ยังคงต้องสำรวมและถือศีลไม่ปล่อยให้ตนเองมีความสุขกับการรับประทานอาหารและผ่อนคลายจนเกินไป อาหารชนิดแรกที่อิสลามิกชนต้องรับประทานหลังจากถือศีลอดมา ทั้งวัน คือ อินทผลัม อาหารชนิดแรกที่อิสลามิกชนต้องรับประทานหลังจากถือศีลอดมา ทั้งวัน คือ อินทผลัม ข้อห้ามที่ไม่ควรปฏิบัติ ในช่วงเวลากลางวัน มีดังนี้ นพ.ปรีชา วงศ์ศิลารัตน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงขลา เคยให้ข้อมูลว่า พฤติกรรมการรับประทานที่แตกต่างกันของแต่ละคน อาจทำให้ช่วงเวลาถือศีลอดยาวนานได้ตั้งแต่ 13 - 20 ชั่วโมงต่อวัน เป็นเช่นนี้ต่อเนื่องกันไป 29-30 วัน จึงอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพสำหรับบางคน โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เดือนรอมฎอน นอกจากการกำหนดเดือนในปฏิทินอิสลามที่ต้องสังเกตการณ์ดวงจันทร์เสี้ยวแรกแล้ว ยังมีความเกี่ยวข้องกับ ดาราศาสตร์ อย่างเรื่องการหมุนรอบตัวเองของโลก และการที่แกนโลกเอียง ดังนี้ “เดือนรอมฎอน” พิธีศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิม “เดือนรอมฎอน” พิธีศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิม ในแต่ละปี เดือนรอมฎอนจะขยับเร็วขึ้นมา 10 หรือ 11 วัน เมื่อเทียบปฏิทินสากล (ปฏิทินเกรกอเรียน) ปฏิทินสากลนั้นใน 1 ปี มีจำนวณวัน บาคาร่า10บาท365 หรือ 366 วัน แตกต่างกับปฏิทินอิสลามแบบจันทรคติ (เดือนกอมารียะห์) ที่มีทั้งหมด 12 เดือน แต่หนึ่งเดือนกอมารียะห์นั้นจะมีจำนวณวัน 29 หรือ 30 วัน ขึ้นอยู่กับการสังเกตการณ์จันทร์เสี้ยวแรก ดังนั้น 1 ปีของปฏิทินอิสลาม มีจํานวนวันประมาณ 354 หรือ 355 วัน น้อยกว่าปฏิทินสากลอยู่ประมาณ 10 หรือ 11 วัน ส่งผลให้แต่ละปี เดือนรอมฎอนจะขยับเร็วขึ้นมา และฤดูกาลที่ถือศีลอดจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ เนื่องจากปฏิทินจันทรคติ เป็นปฏิทินไม่ตรงตามฤดูกาล สำหรับปีนี้ วันที่ 1 เดือนรอมฎอน ฮ.ศ. 1445 ตรงกับวันที่ 12 มีนาคม 2567 (ตามประกาศของสำนักจุฬาราชมนตรี) เมื่อเทียบปีที่ผ่านมา วันที่ 1 เดือนรอมฎอน ฮ.ศ. 1444 ตรงกับวันที่ 23 มีนาคม 2566 ระยะเวลาการถือศีลอดของมุสลิมแต่ละพื้นที่ไม่เท่ากัน เพราะแกนหมุนรอบตัวเองของโลกที่เอียงทำมุม 23.5 องศากับเส้นตั้งฉากระนาบวงโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ ส่งผลให้พื้นที่ต่าง ๆ บนโลก ได้รับแสงอาทิตย์ไม่เท่ากัน จึงทำให้เกิดฤดูกาลบนโลกและระยะเวลากลางวันและกลางคืนที่ต่างกัน เช่น ช่วงฤดูร้อนของประเทศทางซีกโลกเหนือ กลางวันจะยาวนานกว่ากลางคืน ในขณะที่ซีกโลกใต้จะเป็นฤดูหนาวที่มีกลางคืนยาวนานกว่ากลางวัน นั่นแปลว่า ในช่วงเดือนรอมฎอนของแต่ละปี มุสลิมแต่ละพื้นที่ทั่วโลกจะถือศีลอดใน "ฤดูกาล" ที่แตกต่างกัน ส่งผลให้มีระยะเวลากลางวัน - กลางคืนแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ 1 เดือนในปฏิทินจันทรคติ อาจมี 29 หรือ 30 วัน ขึ้นอยู่กับการมองเห็นดวงจันทร์ของเดือนใหม่ ดังนั้นในเย็นขอวันที่ 29 ของเดือนรอมฎอนมุสลิมก็จะพากันไปร่วมกันดูดวงจันทร์ หากเห็นก็ถือว่าวันต่อไปเป็นเดือนใหม่ และรอมฎอนก็สิ้นสุดลง เท่ากับว่ารอมฎอนของปีนั้นมี 29 วัน แต่หากไม่เห็นก็นับว่ารอมฎอนมี 30 วัน มุสลิมต้องถือศีลอดต่อไปอีก 1 วัน จึงถือว่าเดือนรอมฎอนของปีนั้นสิ้นสุดลง เมื่อรอมฎอนสิ้นสุดก็จะเป็นการเฉลิมฉลอง ที่เรียกว่าวัน "วันอีฎิ้ลฟิตริ" วันอีฎิ้ลฟิตริ หรือ อีดิลฟิตรี ตรงกับวันที่ 1 เดือนเชาวาล ตามปฏิทินอิสลาม เป็นวันออกบวชหลังจากถือศีลอดตลอดระยะเวลา 1 เดือน นิยมเรียกวันนี้ว่า “วันออกบวช” หรือ “รายาปอซอ“ หรือ “รายาฟิตเราะห์” วันแรกของการออกจากเทศกาลถือศีลอด ถือเป็นวันแห่งรางวัล และการตอบแทนสำหรับผู้ผ่านการทดสอบประจำปีในเดือนรอมมาฎอนด้วยการบังคับตัวเอง จากการลด ละ การกินดื่ม กิเลสตัณหา และได้ละหมาดตะรอวีหฺเป็นเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงเต็มตลอดค่ำคืนของเดือนรอมฎอน สำหรับปี 2567 สำนักจุฬาราชมนตรี ได้ออกประกาศ เรื่อง การดูดวงจันทร์เพื่อกำหนดวันที่ 1 เดือนเซาวาล (วันอีฎิ้ลฟิตริ) ฮิจเราะห์ศักราช 1445 ระบุว่า เพื่อให้การกำหนดวันที่ 1 เดือนเซาวาล (วันอีฎิ้ลฟิตริ) ฮิจเราะห์ศักราช 1445 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงประกาศให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศดูดวงจันทร์ ใน วันอังคารที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2567 เวลาหลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า หากในวันและเวลาดังกล่าว "มีผู้เห็นดวงจันทร์" โปรดแจ้งไปยังสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด เพื่อคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดจะได้ตรวจสอบ และรายงานผลการดูดวงจันทร์ดังกล่าวมายังจุฬาราชมนตรี เพื่อออกประกาศแจ้งให้พี่น้องมุสลิมได้ทราบโดยทั่วกันต่อไป เดือนรอมฏอน นับว่ามีความสำคัญ ตามบัญญัติของศาสนา 1 ใน 5 ของอิสลาม หรือเรียกว่า "การถือบวช" คล้ายกับการถือศีล 5 ของชาวพุทธ แต่ศีลอดของอิสลามนั้นไม่ปฏิบัติไม่ได้ มุสลิมที่บรรลุศาสนภาวะแล้ว จำเป็นต้องปฏิบัติศีลนี้อย่างเคร่งครัด ยกเว้นผู้ที่เจ็บไข้ได้ป่วย คนชรา หญิงมีครรภ์ เด็กที่ยังไม่บรรลุศาสนภาวะ เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี อ้างอิงข้อมูล : สำนักสารสนเทศ กอ.รมน.ภาค 4 สน., สสส., สำนักจุฬาราชมนตรี, สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ อ่านข่าวอื่น ๆ 19 วันภารกิจ "กู้เรือหลวงสุโขทัย" ไม่พบ 5 ชีวิตผู้สูญหาย “ภูมิธรรม” ชงฮ่องกงใช้ไทย ศูนย์กลางการค้า-ลงทุนอาเซียน "เต่ามะเฟือง" วางไข่หาดไม้ขาว จุดชมเครื่องบินขึ้น-ลง สำนักสารสนเทศ กอ.รมน.ภาค 4 สน.
วันนี้ (8 ส.ค.2565) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝนตกหนักในพื้นที่ จ.ตราด จนเกิดน้ำป่าทะลักเข้าท่วมหลายพื้นที่ โดยพระภิกษุของวัดคีรีวิหาร ต.ชำราก อ.เมืองตราด บันทึกภาพเหตุการณ์ขณะกุฏิเจ้าอาวาสวัด ที่ตั้งอยู่บ