เมื่อชีวิตมนุษย์เปรียบเสมือนเส้นด้าย ไม่มีใครรู้ "เส้นด้าย" แห่งลมหายใจจะขาดหายไปช่วงเวลาใด ในช่วงยั
วันนี้ (29 ก.ย.66) ที่โรงแรมเมอร์เคียว อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล และ นายเดชรัต สุขกำเนิด ผู้อำนวยการ Think Forward Center ร่วมบรรยายในประเด็
เมื่อชีวิตมนุษย์เปรียบเสมือนเส้นด้าย ไม่มีใครรู้ "เส้นด้าย" แห่งลมหายใจจะขาดหายไปช่วงเวลาใด ในช่วงยังมีแรงทุกคนต่างทุ่มเทกำลังกายและใจเพื่อเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่หามาได้ ไม่ว่าจะเป็น บ้าน ที่ดิน รถยนต์ อสังหาริมทรัพย์ แต่เมื่อร่างกายกำลังจะลาลับในฐานะเจ้าของทรัพย์สิน การส่งไม้ต่อ "สินทรัพย์" ให้กับครอบครัว หรือ คนที่รัก จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องวางแผน และจัดการทรัพย์สินของตัวเอง หรือ "มรดก" ในขณะที่ยังมีชีวิตมีอยู่ได้ด้วย "การทำพินัยกรรม" และเพื่อแสดงความชัดเจน ว่า ทรัพย์สินทั้งหมดจะถูกส่งต่อหรือถ่ายโอนไปยังบุคคลที่เจ้าของทรัพย์ประสงค์ที่มอบให้แบบครบถ้วน เรื่องนี้กฎหมายกำหนดไว้ว่าจะให้ส่งมอบให้บุคคลใด องค์กร เป็นผู้รับมรดกก็ได้ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นสายเลือดเดียวกัน หรือญาติใกล้ชิดเสมอไป ในกรณีที่มีการทำพินัยกรรมไว้ก่อนเจ้าของทรัพย์สินจะเสียชีวิต ไทยพีบีเอสออนไลน์ ชวนทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่อง "พินัยกรรม" รูปแบบ และขั้นตอนต่าง ๆ รวมทั้ง ข้อยกเว้นในกรณีที่ เจ้าของทรัพย์สิน ไม่ได้ทำพินัยกรรม มรดกจะต้องเป็นของใครตามกฎหมาย "พินัยกรรม" นั้นเป็นเหมือนคำสั่งครั้งสุดท้าย แสดงเจตนากำหนดการเผื่อตายทั้งในเรื่องทรัพย์สิน หรือ กิจการต่าง ๆ ของผู้ทำพินัยกรรม เพื่อให้เกิดผลบังคับตามกฎหมาย โดยทำแบบใดแบบหนึ่งที่กฎหมายกำหนดไว้ อ่านข่าว : เกษียณไม่เฉา ส่อง 9 อาชีพเติมไฟให้ชีวิต - สร้างรายได้ปัง ในการทำ "พินัยกรรม" กฎหมายได้กำหนดไว้ 6 แบบ ดังนี้ "พินัยกรรม" จะเลือกทำแบบไหนก็ได้ แต่ต้องทำให้ถูกต้องตามแบบ มิเช่นนั้นอาจตกเป็นโมฆะบังคับตามแบบนั้นไม่ได้ ขณะที่ พินัยกรรมทั้ง 5 แบบ มี 3 แบบ คือ แบบที่ 3 , 4 และ 5 เป็นพินัยกรรมที่อาจใช้กระบวนการโดยเฉพาะที่มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง และในแต่ละแบบมีรายละเอียดอย่างไรบ้างนั้น มาเริ่มทำความเข้าใจ "1.พินัยกรรมแบบธรรมดา" กันก่อนว่ามีหลักเกณฑ์การทำเป็นอย่างไรบ้าง สำหรับพินัยกรรมแบบธรรมดานี้ ผู้ทำต้องทำเป็น "หนังสือ" จะเขียน หรือ พิมพ์ ก็ได้ ลงวัน เดือน ปี ในขณะที่ทำเพื่อพิสูจน์ความสามารถของผู้ทำ และ ลงลายมือชื่อผู้ทำพินัยกรรมไว้ต่อหน้าพยานอย่างน้อย 2 คนพร้อมกัน จากนั้นพยาน 2 ลงลายมือชื่อรับรอง "2.พินัยกรรมเขียนเองทั้งฉบับ" ผู้ทำพินัยกรรมเขียนขึ้นด้วยลายมือตัวเองทั้งฉบับ ฉะนั้นผู้เขียนหนังสือไม่ได้ ไม่สามารถจะทำพินัยกรรมแบบนี้ได้ พินัยกรรมแบบนี้จะมีพยานหรือไม่มีก็ได้ เพราะกฎหมายไม่ได้ ห้ามไว้ เขียนข้อความเสร็จแล้ว ต้องอย่าลืม ลงวัน เดือน ปี ในขณะที่ทำลงเพื่อพิสูจน์ความสามารถ รวมทั้งลงลายมือชื่อผู้ทำพินัยกรรม โดยไม่ต้องมีพยาน "3.พินัยกรรมทำเป็นเอกสารฝ่ายเมือง" ผู้ทำพินัยกรรมต้องไปแจ้งข้อความที่ต้องการใส่ในพินัยกรรมของตนแก่เจ้าหน้าที่และพยานอย่างน้อย 2 คนพร้อม ที่ สำนักงานเขต (กทม.) หรือที่ว่าการอำเภอ (ต่างจังหวัด) จะทำนอกที่ว่าการอำเภอก็ได้ หากมีการร้องขอ จากนั้นเจ้าหน้าที่ หรือ นายอำเภอจดข้อความตามที่ผู้ทำพินัยกรรมแจ้งให้ทราบ และอ่านข้อความนั้นให้ผู้ทำพินัยกรรมและพยานฟัง เมื่อเห็นว่าถูกต้องครบถ้วนแล้ว ผู้ทำพินัยกรรมและพยาน 2 คนลงลายมือชื่อ พินัยกรรมฉบับนี้จะสมบูรณ์ได้ ข้อความที่จดนั้นต้องมีลายมือชื่อเจ้าหน้าที่ที่จด ใส่ วัน เดือน ปี ที่จด และจดข้อความว่าพินัยกรรมได้ทำขึ้นถูกต้อง และประทับตราตำแหน่งไว้ หลักฐานที่ใช้ พินัยกรรมแบบเอกสารฝ่ายเมือง 1. บัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริง พร้อมสำเนา 2. หลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินที่จะทำพินัยกรรม 3. กรณีผู้ทำพินัยกรรมอายุเกิน 60 ปี หรือป่วยควรมีใบรับรองแพทย์ว่ามีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ 4. พยานบุคคลอย่างน้อย 2 คน (ต้องเป็นผู้ไม่มีส่วนได้เสียกับทรัพย์สินในพินัยกรรม) 5. หลักฐานอื่นๆ (ถ้ามี) • ค่าธรรมเนียมกรณีทำในสำนักงานเขต 50 บาท คู่ฉบับๆ ละ 10 บาท กรณีทำนอกสำนักงานเขต 100 บาท คู่ฉบับๆ ละ 20 บาท "4.พินัยกรรมทำเป็นเอกสารลับ" ผู้ทำพินัยกรรม อาจเขียน หรือ พิมพ์ แล้วลงลายมือชื่อตัวเอง ผนึกพินัยกรรมพร้อมทั้งลงลายมือชื่อคาบรอยผนึก นำพินัยกรรมที่ผนึกไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานเขต (กทม.) หรือที่ว่าการอำเภอ (ต่างจังหวัด) พร้อมทั้งพยานอย่างน้อย 2 คน และแจ้งต่อบุคคลเหล่านี้ว่าพินัยกรรมนี้เป็นของตน เจ้าหน้าที่จะจดถ้อยคำของผู้ทำพินัยกรรม และลง วัน เดือน ปี ที่ทำพินัยกรรมไว้บนซองและประทับตราตำแหน่ง จากนั้นเจ้าหน้าที่และพยานก็จะลงลายมือชื่อบนซอง หลักฐานที่ใช้ พินัยกรรมแบบเอกสารลับ 1. บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงพร้อมสำเนา 2. สำเนาทะเบียนบ้าน 3. พินัยกรรมซึ่งใส่ซองปิดผนึกแล้ว 4. พยานบุคคล 2 คน • ค่าธรรมเนียมฉบับละ 20 บาท "5.พินัยกรรมทำด้วยวาจา" ผู้ต้องการทำพินัยกรรมอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถทำพินัยกรรมตามแบบอื่นที่กฎหมายกำหนดได้ เช่น อยู่ในที่อันตราย ฯลฯ ผู้ทำพินัยกรรมแจ้งข้อความที่ต้องการในพินัยกรรมต่อหน้าพยานที่อยู่ตรงหน้าอย่างน้อย 2 คน พยานทั้งหมดไปที่สำนักงานเขต (กทม.) หรือที่ว่าการอำเภอ (ต่างจังหวัด) โดยไม่ชักช้า และแจ้งข้อความที่ผู้ทำพินัยกรรมสั่งไว้ด้วยวาจา พร้อมทั้งแจ้งวัน เดือน ปี และสถานที่ทำพินัยกรรม รวมถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย เจ้าหน้าที่จดข้อความที่ได้รับแจ้ง พร้อมทั้งให้พยานที่มาแจ้งลงลายมือชื่อ (ในกรณีไม่อาจลงลายมือชื่อก็ให้พิมพ์ลายนิ้วมือและให้พยานที่หามาใหม่อย่างน้อย 2 คน ลงลายมือชื่อรับรอง) หลักฐานที่ใช้ พินัยกรรมทำด้วยวาจา 1. บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงพร้อมสำเนา 2. สำเนาทะเบียนบ้าน 3. พยานบุคคล 2 คน และ "6.พินิยกรรมแบบทำตามกฎหมายต่างประเทศ" กรณีคนไทยที่อยู่ต่างประเทศต้องการทำพินัยกรรม จะทำตามแบบของกฎหมายประเทศที่ตนอยู่ทำพินัยกรรมก็ได้ หรือจะทำแบบของกฎหมายไทยก็ได้ หากทำตามแบบกฎหมายไทย ในกรณีพินัยกรรมแบบเอกสารฝ่ายเมือง พินัยกรรมแบบเอกสารลับ และพินัยกรรมแบบวาจา ซึ่งสำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวข้อง ก็ให้อำนาจหน้าที่ดังกล่าวเป็นของบุคคลต่อไปนี้แทน แล้วในกรณีที่ไม่ได้ทำพินัยกรรมเอาไว้ ทรัพย์สินจะถูกจัดสรรให้แก่ทายาทโดยธรรม ตามกฎหมายมีวิธีการแบ่งมรดกอย่างไรบ้าง ในทางกฎหมาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1629 กำหนดว่า ทายาทโดยธรรมมี 6 ลำดับ ซึ่งในการแบ่งทรัพย์มรดก ระหว่างทายาทโดยธรรมนั้น จึงต้องแบ่งตามลำดับชั้น ดังนี้ ลำดับที่ 1 : "ผู้สืบสันดาน" คือ บุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย บุตรนอกกฎหมายที่บิดารับรองแล้ว และบุตรบุญธรรม ลำดับที่ 2 : "บิดามารดา" ในกรณีของบิดา เฉพาะบิดาที่ชอบด้วยกฎหมายเท่านั้นที่มีสิทธิรับมรดก ลำดับที่ 3 : "พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน" ลำดับที่ 4 : "พี่น้องร่วมแต่บิดาหรือมารดาเดียวกัน" หรือที่มักเรียกกันว่า "พี่น้องต่างพ่อ หรือ ต่าslotxo เข้า เกมงแม่" ลำดับที่ 5 : ปู่ ย่า ตา ยาย ลำดับที่ 6 : ลุง ป้า น้า อา สำหรับข้อจำกัดและข้อควรระวังในการทำพินัยกรรม ดังนี้ อ้างอิง : สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง, สำนักงานกิจการยุติธรรม, สำนักงานที่ดินจังหวัดนนทบุรี,สำนักงานเขตวัฒนา อ่านข่าว : รู้จัก "อะฟลาท็อกซิน" วายร้ายก่อมะเร็ง "ไขมัน" ถ้าเลือกกิน ยังไงก็ไม่อ้วนแถมได้สุขภาพดีอีกด้วย K9 สี่ขาสุดแกร่ง กับภารกิจหินกู้ภัยอุโมงค์รถไฟถล่ม
วันนี้ ( 25 เม.ย.2568) นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า เพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชนและผลักดันภูมิปัญญาไทย ถือเป็นกลไกสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจฐานราก รวมทั้งสร